จำนวนผู้ชม 13

ถอดบทเรียนจากหนี้ 87 ล้านสู่การพึ่งพาตนเองด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ไชยา ตรีสุวรรณ

ไชยา ตรีสุวรรณ
เจ้าของกิจการ
บริษัท ทรีทราน (ประเทศไทย) จำกัด

บทนำ จากวิกฤตสู่บทเรียนล้ำค่า

เรื่องราวของคุณไชยา ตรีสุวรรณ ไม่ใช่เพียงตำนานการปลดหนี้ 87 ล้านบาท แต่คือบทพิสูจน์ของการศึกษาที่แท้จริง ที่ซึ่งห้องเรียนไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำความรู้มาแก้ปัญหาที่หนักที่สุดในชีวิต วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เคยผลักให้เขาไปสู่จุดที่มืดมนที่สุด ได้กลายเป็น “โครงงาน” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และบทเรียนที่ได้รับนั้นล้ำค่ายิ่งกว่าใบปริญญาใดๆ เรื่องราวนี้คือ “ปริญญาชีวิต” ที่กลั่นกรองจากแนวคิดสำคัญของสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน (ม.ชีวิต) นั่นคือการเรียนรู้โดย “เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง” ซึ่งเป็นหัวใจที่เปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นปัญญา และนำพาชีวิตจากจุดที่ติดลบสู่ความสำเร็จที่มั่นคงและยั่งยืน”

บทเรียนที่ 1 จุดเริ่มต้นของวิกฤต เมื่อการเติบโตทางธุรกิจกลายเป็นกับดัก

          ก่อนจะพบแสงสว่างแห่งทางออก คุณไชยาต้องเผชิญกับความมืดมิดของวิกฤตที่เกิดจากการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเผยให้เห็นถึงความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสำเร็จ               

          1.1 จากพนักงานสู่เจ้าของกิจการร้อยล้าน

          คุณไชยาเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานในคลังสินค้าของบริษัท Yamaha เป็นเวลา 11 ปี ก่อนจะตัดสินใจออกมาทำธุรกิจของตัวเองด้วยเหตุผลที่ว่ารายได้ไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว เขาเริ่มต้นธุรกิจขนส่งด้วยการซื้อรถบรรทุกเพียง 1 คัน เพื่อรับงานจากบริษัทเดิมที่เคยทำงานอยู่ ด้วยความมุ่งมั่นและโอกาสทางธุรกิจ ทำให้กิจการของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว จากรถ 1 คัน กลายเป็น 2, 3, 4 และขยายใหญ่ขึ้นจนมีรถบรรทุกในสังกัดมากกว่า 100 คันในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด

          1.2 สัญญาณอันตรายและจุดแตกหัก

          การเติบโตอย่างรวดเร็วมาพร้อมกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดหลายครั้ง ซึ่งกลายเป็นชนวนของวิกฤตครั้งใหญ่ในเวลาต่อมา

วิกฤตที่ 1

การตัดสินใจที่ผิดพลาด

ขยายธุรกิจเกินตัว “ใจใหญ่”

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

เมื่อมีงานเข้ามามาก จึงตัดสินใจซื้อรถเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยสั่งซื้อทีละเป็น “โหล” ทำให้ภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

บทเรียนเบื้องต้น

การเติบโตที่ไม่สอดคล้องกับความสามารถในการบริหารจัดการ นำไปสู่ความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ และเป็นการ “เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง”

วิกฤตที่ 2

การตัดสินใจที่ผิดพลาด

ลงทุนในรถ NGV โดยขาดความรู้

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

หวังลดต้นทุนค่าน้ำมันโดยเปลี่ยนไปใช้รถ NGV แต่ขาดความเข้าใจเรื่องค่าซ่อมบำรุงที่สูงมาก ทำให้มีภาระค่าซ่อมที่หนักหน่วง

บทเรียนเบื้องต้น

การตัดสินใจลงทุนโดยปราศจากความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้ คือความเสี่ยงที่อันตรายที่สุด เป็นบทเรียนเรื่อง “รู้ไม่เท่าทันนายทุน”

วิกฤตที่ 3

การตัดสินใจที่ผิดพลาด

ขาดประสบการณ์บริหารจัดการ

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

ในช่วงแรกไม่ได้วางมาตรการควบคุมความปลอดภัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง บางครั้งรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต และสร้างความเสียหายมหาศาล

บทเรียนเบื้องต้น

ประสิทธิภาพในการดำเนินงานไม่ได้วัดที่จำนวนรถ แต่คือระบบการจัดการที่มีมาตรฐาน

วิกฤตที่ 4

การตัดสินใจที่ผิดพลาด

ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น (ปี 2554) และวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในไทย ทำให้การผลิตชิ้นส่วนและสินค้าหยุดชะงัก ธุรกิจขนส่งจึงหยุดตามไปด้วย

บทเรียนเบื้องต้น

การพึ่งพาลูกค้าเพียงไม่กี่รายและไม่มีแผนรับมือความเสี่ยงจากภายนอก ทำให้ธุรกิจเปราะบาง

1.3 สภาวะหนี้ท่วมท้น 87 ล้านบาท
          เมื่อปัจจัยลบทั้งหมดถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ธุรกิจของคุณไชยาที่เคยเติบโตก็ถึงจุดแตกหัก เขามีหนี้สินสะสมสูงถึง 87 ล้านบาท สภาพคล่องทางการเงินหมดไป ต้องเริ่มนำที่ดินไปจำนอง และกู้ยืมเงินนอกระบบมาหมุนเวียน สภาวะที่บีบคั้นทำให้เขาท้อแท้ สิ้นหวัง ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถมเข้ามาอีกครั้งรุนแรงไม่ต่างจากวิกฤตในอดีตที่เคยทำให้เขาคิดสั้น เพราะมองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวต่อไปได้อีกแล้ว
ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะมืดมนที่สุด ประตูบานใหม่แห่งการเรียนรู้ก็ได้เปิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

บทเรียนที่ 2 จุดเปลี่ยน  ค้นพบการเรียนรู้ที่ใช้ “ชีวิตเป็นตัวตั้ง”

          จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของคุณไชยาไม่ได้เกิดขึ้นในห้องประชุมธุรกิจ แต่อยู่ในสถาบันการศึกษาที่ชื่อว่า “มหาวิทยาลัยชีวิต” ซึ่งได้มอบเครื่องมือและหลักคิดที่เปลี่ยนแปลงมุมมองของเขาไปตลอดกาล

2.1 ก้าวแรกสู่ ม.ชีวิต
          การเดินทางมาสู่สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน (ม.ชีวิต) ของคุณไชยาไม่ได้เกิดจากความตั้งใจที่จะศึกษาต่อเพื่อเอาวุฒิการศึกษา แต่เป็นเพราะเพื่อนสนิทชวนให้มาเรียน ประกอบกับช่วงนั้นธุรกิจเริ่มมีปัญหาและมีเวลาว่างมากขึ้น เขาจึงมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ “บังคับตัวเอง” ให้กลับมาเยี่ยมและดูแลแม่ที่สมุทรสงครามในช่วงสุดสัปดาห์
2.2 ประกายไฟแรก: บทเรียนเรื่อง “การพึ่งตนเอง”
          วิชาแรกๆ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในความคิดของคุณไชยาคือเรื่อง “การพึ่งตนเอง” และ “การเรียนรู้ตนเอง” บทเรียนนี้ทำให้เขาได้หยุดและหันกลับมาสำรวจตัวเองอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก หรือที่เขาเรียกว่า “ขุดเอาความเป็นตัวเองขึ้นมาดู” ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงภายในที่ลึกซึ้ง
          • ใจเย็นขึ้น: จากคนที่เคยพูดจาโผงผาง ก้าวร้าว กลายเป็นคนที่ใจเย็นและสุขุมมากขึ้น
          • ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น: การบ่นว่าภรรยาและลูกลดน้อยลงจนแทบไม่มี ทำให้ครอบครัวมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของเขา
 
2.3 หัวใจของ ม.ชีวิต – “เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง”
          หลักการสำคัญที่สุดที่เขาได้รับจาก ม.ชีวิต คือแนวคิดที่ว่า “ให้เอาชีวิตเป็นตัวตั้งในการเรียนรู้” อาจารย์แนะนำว่า “คนที่มีอาชีพแล้วและอาชีพมีปัญหา ก็ให้เอาอาชีพนั้นมาแก้ไข” แนวคิดนี้ได้เปลี่ยนปัญหาหนี้สิน 87 ล้านบาทที่เคยเป็นเหมือนคำสาป ให้กลายเป็น “โครงงานจบการศึกษา” ที่ท้าทายและยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา ปัญหาที่เคยทำให้ท้อแท้กลับกลายเป็นโจทย์วิจัยที่ต้องลงมือแก้ไขด้วยตัวเองอย่างจริงจัง
เมื่อได้เครื่องมือและหลักคิดที่ถูกต้องแล้ว โครงการแก้หนี้ในชีวิตจริงซึ่งเป็นโครงงานจบการศึกษาของคุณไชยาก็ได้เริ่มต้นขึ้น”

บทเรียนที่ 3 ปฏิบัติการปลดหนี้ ประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

          เมื่อปัญหาหนี้สินได้กลายเป็น “โครงงาน” ที่ต้องส่งอาจารย์และเดิมพันด้วยชีวิตจริง คุณไชยาได้นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเครื่องมือนำทางในการลงมือปฏิบัติ เพื่อแก้ไขวิกฤตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

3.1 กรอบความคิดใหม่: ทางสายกลาง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข
          ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้มอบกรอบความคิดใหม่ให้กับการตัดสินใจทางธุรกิจของคุณไชยา โดยยึดหลักทางสายกลางที่ประกอบด้วย 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ, ความมีเหตุผล, การมีภูมิคุ้มกันที่ดี และ 2 เงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรม ซึ่งได้กลายเป็นแก่นสำคัญของงานวิจัยในระดับปริญญาโทของเขาด้วย สามห่วงนี้ได้กลายเป็นแผนที่นำทางในการปฏิบัติการปลดหนี้ของคุณไชยาในสามขั้นตอนสำคัญ คือ การลดขนาดธุรกิจให้พอดีตัว, การแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยเหตุผล, และการสร้างเกราะป้องกันเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
3.2 ขั้นตอนที่ 1: สร้างเงื่อนไขความรู้ – เผชิญหน้าความจริง 87 ล้านบาท
          สิ่งแรกที่คุณไชยาทำตามคำแนะนำของอาจารย์ คือการรวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่เป็นครั้งแรกในชีวิต เขาได้ดึงข้อมูลทุกอย่างขึ้นมาดู ทำให้ได้เห็นตัวเลขหนี้ที่แท้จริงคือ 87 ล้านบาท เป็นครั้งแรก การกระทำนี้คือการสร้าง “เงื่อนไขความรู้” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด คือการยอมรับและทำความเข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างถ่องแท้ โดยไม่หลอกตัวเองอีกต่อไป
 
3.3 ขั้นตอนที่ 2: ประยุกต์ใช้ความพอประมาณ – “ลดขนาด” ธุรกิจที่อ้วนเกินไป
          เมื่อเห็นภาพรวมของปัญหาแล้ว คุณไชยาได้นำหลัก “ความพอประมาณ” มาใช้เป็นอย่างแรก เขาตระหนักว่าธุรกิจของเขา “อ้วนเกินไป” และไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงตัดสินใจ “ลดขนาด” ธุรกิจลงทันที
• การดำเนินการ: ยกเลิกสาขาที่ไม่สร้างกำไรหรือมีกำไรน้อยในต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, ขอนแก่น และนครราชสีมา
• ผลลัพธ์: ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงทันที ทำให้สามารถบริหารจัดการส่วนที่เหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
3.4 ขั้นตอนที่ 3: เดินตามความมีเหตุผล – ปฏิวัติการบริหารจัดการ
          คุณไชยาได้เปลี่ยนจากการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า มาเป็นการวิเคราะห์และแก้ไขอย่างเป็นระบบด้วย “ความมีเหตุผล” ในทุกมิติของธุรกิจ

มิติที่ 1

ปัญหาที่พบ

หนี้สินล้นพ้นตัว

แนวทางการแก้ไขอย่างมีเหตุผล

เรียกสถาบันการเงินทุกเจ้ามาเจรจา “ปรับโครงสร้างหนี้” โดยชี้ให้เห็นว่า หากปล่อยให้เขาทำงานต่อ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์มากกว่าการยึดรถไปขายทอดตลาด

หลักการเรียนรู้ที่นำมาใช้

การเจรจาต่อรองโดยใช้เหตุผล และการแสวงหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ (ได้รับคำแนะนำจากทีมงานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

สถาบันการเงินยินยอมให้ปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้สามารถยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปและดำเนินธุรกิจต่อได้

มิติที่ 2

ปัญหาที่พบ

ต้นทุนค่าประกันสูง

แนวทางการแก้ไขอย่างมีเหตุผล

เรียกสถาบันการเงินทุกเจ้ามาเจรจา “ปรับโครงสร้างหนี้” โดยชี้ให้เห็นว่า หากปล่อยให้เขาทำงานต่อ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์มากกว่าการยึดรถไปขายทอดตลาด

หลักการเรียนรู้ที่นำมาใช้

การเจรจาต่อรองโดยใช้เหตุผล และการแสวงหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ (ได้รับคำแนะนำจากทีมงานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

สถาบันการเงินยินยอมให้ปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้สามารถยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปและดำเนินธุรกิจต่อได้

มิติที่ 3

ปัญหาที่พบ

อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย

แนวทางการแก้ไขอย่างมีเหตุผล

ขาดระบบควบคุมมาตรฐานความปลอดภัย ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จึงนำ “ระบบควบคุมที่ทันสมัย” มาใช้

หลักการเรียนรู้ที่นำมาใช้

การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสากล (เรียนรู้จากบริษัทใหญ่และต่างประเทศ) และการสร้างวินัยให้พนักงาน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ติดตั้ง GPS, CCTV, จัดอบรมพนักงาน และกำหนดให้พนักงานขับรถ 4 ชั่วโมงต้องหยุดพัก 1 ครั้ง ทำให้อุบัติเหตุลดลงจนแทบไม่มี

มิติที่ 4

ปัญหาที่พบ

ไม่เห็นกำไร-ขาดทุนที่แท้จริง

แนวทางการแก้ไขอย่างมีเหตุผล

ในอดีตจะรู้ผลประกอบการเมื่อสิ้นเดือนไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที จึงให้โปรแกรมเมอร์ในทีม “พัฒนาโปรแกรมติดตามผลประกอบการแบบรายวัน”

หลักการเรียนรู้ที่นำมาใช้

การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างระบบการวัดผลและการตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็ว

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

สามารถตรวจสอบกำไร-ขาดทุนได้เป็นรายเที่ยว ทำให้สามารถหยุดเส้นทางที่ไม่ทำกำไรได้ทันที

3.5 ขั้นตอนที่ 4: สร้างภูมิคุ้มกันและยึดมั่นในเงื่อนไขคุณธรรม – รากฐานสู่ความยั่งยืน
          นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว คุณไชยายังได้สร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ให้กับธุรกิจและชีวิตส่วนตัว โดยใช้ “เงื่อนไขคุณธรรม” เป็นพื้นฐาน เพื่อความมั่นคงในระยะยาว
          • การกระจายความเสี่ยง: เพิ่มความหลากหลายของลูกค้า จากเดิมที่พึ่งพาลูกค้ารายใหญ่เพียง 2-3 เจ้า มาเป็นการมีลูกค้ารายย่อยจำนวนมากขึ้น เพื่อไม่ให้ธุรกิจล้มหากลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งมีปัญหา
          • การเปลี่ยนค่านิยมส่วนตัว: ละทิ้งความอยากได้ใคร่มีในวัตถุนิยม เช่น รถยนต์หรูหรา และหันมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ทำให้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและมีเงินเหลือไปชำระหนี้มากขึ้น
          • การสร้างวินัยทางการเงิน: มีวินัยในการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงที่ลำบากที่สุด ทำให้สามารถสร้างความไว้วางใจกับสถาบันการเงินกลับคืนมาได้อีกครั้ง
ความสำเร็จในการปลดหนี้ของคุณไชยาได้กลั่นกรองออกมาเป็นบทเรียนและหลักการสำคัญที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้”
 

บทเรียนที่ 4 ถอดรหัสความสำเร็จ 4 หลักคิดเปลี่ยนชีวิตสู่ความยั่งยืน

          จากการลงมือปฏิบัติจริง คุณไชยาได้สังเคราะห์บทเรียนทั้งหมดออกมาเป็นหลักคิด 4 ประการที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง ซึ่งเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงชีวิตจากวิกฤตสู่ความยั่งยืน

 

4.1 หลักคิดที่ 1: เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง – เปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา
          นี่คือหลักการที่ทรงพลังที่สุด คือการมองปัญหาทุกอย่างในชีวิตให้เป็น “โจทย์” ของการเรียนรู้ ไม่ว่าปัญหานั้นจะเล็กหรือใหญ่ เราสามารถใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และลงมือทำเพื่อหาทางแก้ไข ปัญหาจึงไม่ใช่ทางตัน แต่เป็นโอกาสในการพัฒนาปัญญาและความสามารถของตนเอง
4.2 หลักคิดที่ 2: เศรษฐกิจพอเพียง – ไม่ใช่แค่ประหยัด แต่คือความสมดุล

          ในมุมมองของคุณไชยา เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การอยู่อย่างอดอยากหรือปฏิเสธความเจริญ แต่คือกรอบความคิดในการตัดสินใจทุกเรื่องอย่างมี “ความสมดุล” เป็นการทำทุกอย่างบนพื้นฐานของความพอดี มีเหตุมีผล และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเสมอ เป็นแนวทางที่สร้างความมั่นคงจากภายใน ไม่ใช่การวิ่งตามกระแสภายนอกอย่างไร้ทิศทาง

4.3 หลักคิดที่ 3: ไม่หยุดนิ่งใฝ่รู้ – พัฒนาตนเองอยู่เสมอ

          คุณไชยามีคติประจำใจว่า การจะอยู่รอดได้นั้น “ต้องใฝ่รู้ ไม่หยุดนิ่ง แค่นั้นแหละ รอด” เขาเชื่อว่าตราบใดที่เราไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนหรือสถาบันการศึกษา แต่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจากการลงมือทำ การสังเกต และการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อมาพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของตนเองอยู่เสมอ

4.4 เครื่องมือจัดการชีวิต: “แผน 4 ด้าน”  
          เครื่องมือสำคัญที่เขาได้เรียนรู้จาก ม.ชีวิต และนำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการชีวิตและธุรกิจให้สมดุล คือ “แผน 4 ด้าน” ซึ่งช่วยให้เขาสามารถจัดลำดับความสำคัญและดูแลทุกมิติของชีวิตได้อย่างครบถ้วน 
แผน 4 ด้าน
เป้าหมายและคำอธิบาย
1. แผนชีวิต
การวางเป้าหมายระยะยาวของชีวิต ว่าต้องการใช้ชีวิตแบบไหนและจะไปในทิศทางใด
2. แผนสุขภาพ
การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ผ่านการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้มีพลังในการทำงาน
3. แผนเวลา
การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตื่นนอนตอนตี 4 และเข้านอนตอน 3 ทุ่มทุกวัน เพื่อให้มีเวลาทำสิ่งต่างๆ ได้เต็มที่
4. แผนการทำงาน
การจัดลำดับงานและวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาย

“เรื่องราวทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ของการศึกษาที่แท้จริง”

บทสรุป ปริญญาที่แท้จริงของชีวิต

          “ปริญญาชีวิต” ของคุณไชยา ตรีสุวรรณ ไม่ได้ถูกวัดด้วยกระดาษใบเดียว แต่คือความสามารถในการนำความรู้มาแก้ปัญหาจริงในชีวิต คือพลังในการพลิกฟื้นธุรกิจจากจุดที่ติดลบ 87 ล้านบาท สู่ความสำเร็จที่มั่นคงและยั่งยืน เรื่องราวของเขาเป็นเครื่องยืนยันว่า การศึกษาที่มีคุณค่าที่สุดคือการศึกษาที่ทำให้คนคนหนึ่งสามารถยืนหยัดขึ้นได้ด้วยขาของตัวเอง แก้ไขวิกฤตด้วยสติปัญญา และค้นพบความสุขที่แท้จริงในความพอดี เรื่องราวนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจอันทรงพลังให้กับทุกคนที่กำลังเผชิญกับปัญหา ดังที่คุณไชยาได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างมีความหวังว่า
“ชีวิตมีปัญหาได้ แต่ถ้าเราไม่หยุดนิ่ง…แก้ได้หมด”
วันแห่งความภาคภูมิใจที่ได้ทั้งปริญญาบัตรและปริญญาชีวิต

วีดิโอเรื่องราวของ คุณไชยา ตรีสุวรรณ ศิษย์เก่า สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน