จำนวนผู้ชม 6

“เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา”

จากด้ายแห่งฝัน สู่แบรนด์ “Siri”
เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของคุณสิริพร สิริวัจทรัพย์

สิริพร สิริวัจทรัพย์
เจ้าของกิจการ ร้านตัดเย็บเสื้อผ้าแบรนด์ “Siri” 
ศิษย์เก่า ป.ตรี ม.ชีวิต

บทนำ  

          เรื่องราวของคุณสิริพร สิริวัจทรัพย์ คือบทพิสูจน์อันทรงพลังว่าชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน จากผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน มีสังคมกว้างขวาง สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า “Siri” ที่ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่ยังเป็นผู้สร้างโอกาสและส่งต่อลมหายใจแห่งความหวังให้กับผู้คนในชุมชน นี่คือการเดินทางของการค้นพบความฝัน ความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ และพลังของการเรียนรู้ที่สามารถเปลี่ยนเส้นด้ายแห่งความฝันให้กลายเป็นผืนผ้าแห่งความจริงอันงดงาม

บทเรียนที่ 1 จุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายอาชีพ: บทเรียนจากประสบการณ์จริง

          ก่อนจะมาเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว คุณสิริพรได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่บริษัทคอมพิวเตอร์ สำนักงานทนายความ บริษัทรับทำบัญชี บริษัทวัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงโรงงานเย็บผ้า ที่ซึ่งกลิ่นน้ำมันจักรและความขวักไขว่ของเสียงฝีเข็มได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดบนเส้นทางสายนี้

          ชีวิตในแวดวงการตัดเย็บของคุณสิริพรเริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้าง แต่ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เธอได้ก้าวขึ้นมาเปิดโรงงานรับจ้างผลิต (OEM) เป็นของตนเอง และสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วจนมีถึง 3 สาขา ทว่าท่ามกลางความเติบโตนั้น เธอต้องเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ที่พัดกระหน่ำธุรกิจของเธอมาโดยตลอด นั่นคืออุปสรรคที่แก้ไม่ตก ดังที่เธอสรุปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า:
“ปัญหาเดียวที่หนูแก้ไม่ได้คือแรงงาน”

คำพูดสั้นๆ นี้สะท้อนถึงความท้าทายอันใหญ่หลวงที่เธอต้องแบกรับ ปัญหานี้เองได้กลายเป็นแรงผลักดันมหาศาลให้เธอมองหาหนทางใหม่ จนกระทั่งมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในรูปแบบของธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่นำเธอไปสู่เส้นทางของการเป็นเจ้าของแบรนด์อย่างแท้จริง

ภาพจำลองธุรกิจในช่วงเริ่มต้น

บทเรียนที่ 2 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ: เมื่อ “โอกาส” มาในรูปแบบของ “การเรียนรู้”

          จุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณสิริพรเกิดขึ้นจากคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่ง—พี่สาวคนสนิทผู้ล่วงลับ คุณเขมิกา หรือ “เจ๊” ที่ทุกคนรู้จัก ท่านคือผู้ที่มองเห็นศักยภาพในตัวเธอและหยิบยื่นโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตให้ “เจ๊พาเราขึ้นรถมาเรียนเลย” คุณสิริพรเล่าถึงวันนั้นด้วยแววตาที่ยังคงระลึกถึงความผูกพันอันลึกซึ้ง การเข้ามาศึกษาที่สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชนจึงไม่ใช่เพียงการหาความรู้ แต่คือการแบกรับความฝันและความหวังของบุคคลอันเป็นที่รักไว้บนบ่า กลายเป็นคำมั่นสัญญาที่ต้องทำให้สำเร็จ

เป้าหมายเริ่มต้นในการเรียน

เป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นหลังได้เรียนรู้

มองการศึกษาเป็นเพียงการได้รับวุฒิปริญญาบัตรเพื่อเติมเต็มโปรไฟล์

เปลี่ยนมุมมองการศึกษาให้เป็นเครื่องมือสร้างอนาคต โดยตั้งเป้าหมายที่แน่วแน่ว่าจะต้องใช้ความรู้ที่ได้สร้างแบรนด์และร้านเสื้อผ้าให้สำเร็จ เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่สาวคนสนิท

     

ความรู้ที่ได้รับจากรายวิชาต่างๆ โดยเฉพาะวิชา พัฒนาชีวิต” ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เธอได้วิเคราะห์และทำความเข้าใจในศักยภาพของตนเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เธอสามารถวางแผนชีวิตและธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ จากที่เคยเดินไปข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง การเรียนรู้ได้มอบแผนที่และเข็มทิศให้เธอพร้อมที่จะออกเดินทางสร้างความฝันให้เป็นจริง

พี่สาวคนสนิทผู้ล่วงลับ คุณเขมิกา หรือ "เจ๊"
บรรยากาศการเรียนรู้ที่สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน
รับฟังคำชี้แนะการจัดทำโครงงาน
นำเสนอโครงงาน เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา

บทเรียนที่ 3  ก่อร่างสร้างแบรนด์ “เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา”

เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา” คือชื่อโครงงานการศึกษาที่ตกผลึกเป็นแนวคิดและวิสัยทัศน์ ส่วน “Siri” คือชื่อแบรนด์ที่นำวิสัยทัศน์นั้นมาทำให้เกิดขึ้นจริง แนวคิดนี้ถือกำเนิดขึ้นจากความรักและความต้องการที่จะแสดงตัวตนผ่านผลงานเสื้อผ้า คุณสิริพรได้หยิบยก ผ้าขาวม้า” ซึ่งในขณะนั้นถูกมองว่า “เชย” มาเป็นวัตถุดิบหลัก เธอต้องการทลายภาพลักษณ์เดิมๆ ด้วยการนำผ้าขาวม้ามาออกแบบใหม่ให้ร่วมสมัย สะท้อนสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน

เอกลักษณ์และความโดดเด่นของแบรนด์สามารถสรุปได้ดังนี้:

  • วัตถุดิบที่เลือกสรร: เลือกใช้ผ้าขาวม้าจากแหล่งผลิตคุณภาพที่ คูบัว ราชบุรี” เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ เนื้อผ้าหนา มีน้ำหนัก และมีลวดลายที่สวยงาม เหมาะสมอย่างยิ่งกับการนำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่น
  • เอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก: ด้วยลักษณะของลวดลายผ้าขาวม้า ทำให้สินค้าแต่ละชิ้นที่ตัดเย็บออกมามีรายละเอียดการวางลายที่ไม่ซ้ำกันโดยสิ้นเชิง “สินค้าในร้านคือ 1 เดียวอ่ะ ชิ้นเดียว ให้ตัดอีกที 10 ครั้ง 20 ครั้ง ก็ไม่เหมือนเดิม” คุณสิริพรอธิบาย ซึ่งนั่นทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นกลายเป็นงานศิลปะที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกอย่างแท้จริง
  • การสร้างมูลค่าเพิ่ม: นำภูมิปัญญาด้านการตัดเย็บที่สั่งสมมา ผสมผสานเข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่และเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับผ้าขาวม้าซึ่งเป็นผ้าพื้นถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

 

          วัตถุประสงค์หลักของโครงงาน “เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา” จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างแบรนด์ แต่คือการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน

“เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ”

แหล่งผลิตคุณภาพที่ "คูบัว ราชบุรี"
สินค้าแต่ละชิ้นมีการวางลายที่ไม่ซ้ำกัน
ออกแบบตัดเย็บผสมผสานกับแฟชั่นสมัยใหม่

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนนี้ คุณสิริพรได้เริ่มลงมือปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริง แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคเดิมที่เคยทำให้เธอเกือบท้อแท้มาแล้วก็ตาม

บทเรียนที่ 4 เปลี่ยน “อุปสรรค” เป็น “พลังขับเคลื่อนชุมชน”

แม้จะมีความก้าวหน้าในการสร้างแบรนด์ แต่ปัญหาที่คุณสิริพรระบุว่าเป็น ปัญหาเดียวที่แก้ไม่ได้คือแรงงาน” ก็ยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญ แต่ครั้งนี้ แทนที่จะมองว่าเป็นทางตัน เธอกลับพลิกโจทย์ใหม่ เปลี่ยนอุปสรรคที่เคยเป็น “จุดอ่อน” ให้กลายเป็น “จุดแข็ง” และเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ “เสน่ห์ไทย เสน่ห์เรา” ที่เน้นการสร้างเครือข่ายและพัฒนาคนในชุมชน

 

เธอเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของเธอโดยตรง ผ่านแนวทางที่น่าชื่นชมดังนี้:

  1. สร้างเครือข่าย: จัดตั้ง กลุ่มเครือข่ายผู้รับงานไปทำที่บ้าน” เพื่อกระจายงานและสร้างรายได้ให้กับผู้คนในชุมชนที่มีทักษะฝีมือแต่ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาทำงานที่โรงงาน
  2. พัฒนาคน: จัดอบรมและสอนอาชีพการเย็บผ้าให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในชุมชนให้มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด
  3. เชื่อมโยงโอกาส: ประสานงานกับหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อเป็นตัวกลางในการหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนให้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงและซื้อจักรเย็บผ้าไปใช้ต่อยอดสร้างอาชีพที่บ้านของตนเองได้

 

จากปัญหาที่เคยมองว่าเป็นจุดอ่อน คุณสิริพรได้ใช้ความเข้าใจและประสบการณ์ของเธอพลิกมันให้กลายเป็นจุดแข็ง ทุกฝีเข็มไม่ได้เย็บเพียงผืนผ้า แต่เย็บร้อยความฝันของผู้คนในชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน

 

ภาพการอบรมอาชีพการเย็บผ้า
และกลุ่มเครือข่ายผู้รับงานไปทำที่บ้าน

บทเรียนที่ 5  เก็บเกี่ยวความสำเร็จและส่งต่อแรงบันดาลใจ

          ด้วยความมุ่งมั่นและการทำงานอย่างหนัก ความฝันของคุณสิริพรได้กลายเป็นความจริงที่จับต้องได้ ความสำเร็จของเธอไม่ได้วัดจากผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเติบโตของธุรกิจและการสร้างคุณค่าให้กับชุมชน ซึ่งสรุปเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้ดังนี้:

  • การขยายธุรกิจ: บรรลุชัยชนะครั้งสำคัญในการเปิดร้านของตัวเองที่ ตลาดน้ำอัมพวา ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เมื่อครั้งเริ่มต้นการศึกษา เพื่อเป็นหน้าร้านแห่งความภาคภูมิใจที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
  • การตลาดออนไลน์: พรสวรรค์ด้านการเข้าสังคมในอดีตถูกนำมาปรับใช้กับการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างลงตัว เธอสามารถสร้างยอดขายและทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้ายุคใหม่
  • การรับรองคุณภาพ: นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบมาตรฐาน จนได้รับการรับรอง มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ถึง 2 รายการ ได้แก่ กระโปรงและกระเป๋า ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพของสินค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
  • ต่อยอดสู่ OTOP: กำลังอยู่ในขั้นตอนการนำสินค้าที่ได้มาตรฐานไปขึ้นทะเบียนเป็น สินค้า OTOP เพื่อขยายช่องทางการตลาดและสร้างการยอมรับในระดับประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ตลาดน้ำอัมพวา
ร้าน Siri ที่ตลาดน้ำอัมพวา
จำหน่ายสินค้าผ่านช่อง TikTok
ได้รับการรับรอง มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
รับรางวัลปริญญาชีวิตจากท่านนายกสภาสถาบันฯ

วีดิโอเรื่องราวของคุณ สิริพร  สิริวัจทรัพย์